บริษัท โอเชียน สกาย เน็ตเวิร์ค จำกัด โชว์ศักยภาพเทคสตาร์ทอัพสัญชาติไทยในฐานะผู้พัฒนา Mandala Al Engine and Solutions เครื่องมือในการช่วยสำรวจ วิเคราะห์ เจาะลึกบิ๊กดาต้าของลูกค้าบนโลกออนไลน์
เปิดตัว Mandala Al Ecosystem ตัวช่วยในการขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดด้วย AI นำธุรกิจไปสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล ตั้ง เป้ารายได้เติบโต 200% ในปี 2566 พร้อมวางแผนทำตลาดเชิงรุกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ดร.เอกลักษณ์ ยิ้มวิไล ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอเชี่ยน สกาย เน็ตเวิร์ค จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน Social Media เข้ามามีบทบาทกับคนในสังคมเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่เข้าถึง อินเทอร์เน็ต และ สมาร์ทโฟนได้ง่ายขึ้น รวมทั้งไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนแปลงไป Social Media นั้น เปรียบเสมือน
เป็นสื่อกลางออนไลน์ ที่เชื่อมต่อให้ทุกคนสามารถสื่อสารกันได้อย่างสะดวก ง่ายดาย และรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่ม สังคมเล็กๆ ไปจนถึงการที่ธุรกิจใช้เพื่อเป็นช่องทาง
ในการสื่อสาร และทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งเสียงของผู้บริโภคหรือ ข้อมูลบนโลกออนไลน์นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทําให้บริษัทต่างๆ ที่จะนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ให้เกิด ประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นต้องมีเครื่องมือมาช่วยวิเคราะห์ แยกแยะ และบริหารจัดการข้อมูลเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม
ยุคของบิ๊กดาต้าเลยจุดสูงสุดมาแล้ว และกำลังเข้าสู่ยุคของเอไอ หรือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: Al) ซึ่งปัจจุบันได้รับความสนใจ และมีบทบาทอย่างมาก จากความสามารถในการประมวลผลข้อมูลได้ อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยมีการคาดการณ์ว่าการใช้งานเอไอในตลาดทั่วโลกจะเติบโตถึงปีละ 37.3% (ระหว่างปี 2022-2030)
และมีโอกาสเข้ามาทำงานแทนคนกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก และจะมีตำแหน่งงานเกิดใหม่อีก ราว 97 ล้านตำแหน่ง ที่มีศักยภาพทำงานร่วมกับเอไอ
ดังนั้น บริษัทฯ ในฐานะผู้พัฒนาเครื่องมือ Mandala Analytics วิเคราะห์บิ๊กดาต้าก็จะต้องมีเอไอเป็นตัว ขับเคลื่อน โดย Mandala Al Ecosystem จะช่วยในการรวบรวม กลั่นกรอง ตลอดจนวิเคราะห์ ประมวลผล และ สร้างสรรค์ข้อมูลจาก Big Data บนโลกออนไลน์ โดยมีเป้าหมายในการช่วยให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จาก Social Media Data ได้ (Make data accessible for everyone) ซึ่ง Mandala Al Ecosystem จะมีระบบ (Engines) ที่เป็น หัวใจหลักสำคัญอยู่ 4 ระบบ ได้แก่
1. Seed Engine: ระบบรวบรวม และจัดเก็บ และบริหารจัดการข้อมูล Big data ที่มีอยู่บน Social Media อาทิ Facebook, Instagram, Twitter, YouTube และอื่นๆ
2. Paradigm Engine: ระบบ Machine Learning คือการเรียนรู้ชุดข้อมูล Data Processing, Modeling,Classification, las Predictive Modeling
3. Mandala Al Engine: ระบบวิเคราะห์ กลั่นกรอง และประมวลผลข้อมูล Big Data
4. MandalaGPT: ระบบ Al Deep Learning หรือการเรียนรู้ข้อมูล Big Data เชิงลึกเพื่อให้ AI สามารถพัฒนาตัวเอง คัดเลือกข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง หรือสร้างสรรค์ข้อมูลได้เองจากชุดข้อมูลที่กำหนด
ซึ่งข้อมูลที่อยู่ในระบบ Mandala Al Ecosystem เป็นข้อมูลที่ได้รับการรับรองจาก Meta (Facebook, Instagram, WhatsApp), Google and YouTube, Twitter, Pantip และ Reddit ซึ่งระบบของบริษัทฯ มีข้อมูลมากกว่า 20 พันล้านเซ็ต และสามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลได้มากกว่า 100 ล้าน เมนชั่นส์ (Mentions) ต่อวัน
สำหรับแผนดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2566 ตั้งเป้ารายได้เติบโตอยู่ที่ 200% จากปีก่อน มีแผนขยายตลาด ในกลุ่มของ SaaS Products ได้แก่ Mandala Cosmos แพลตฟอร์มที่ใช้ในการติดตามเทรนด์ในโซเชียลมีเดีย และ Mandala Analytics แพลตฟอร์มที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดียเชิงลึก
ในตลาดประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ ได้แก่ กลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ และกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาสเปน และจะเน้นทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้นทั้งใน ประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อให้นักลงทุนมีความสนใจมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Mandala Cosmos และ Mandala Analytics ให้เป็น All-in-One Platform ซึ่งจะมีฟีเจอร์ที่ช่วยในการบริหารจัดการโซเชียลมีเดีย (Social Media Management) เช่น In-platform Reply, การติดแท็กจัดหมวดหมู่อัตโนมัติ และการแจ้งเตือน (Auto tagging and notification) เพื่อช่วยบริหารจัดการ ข้อมูลที่ต้องมอนิเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง
พร้อมการแจ้งเตือนหากมีเหตุการณ์วิกฤต ผ่านอีเมล หรือไลน์ (Line) ได้ รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Mandala Al Custom Enterprise Solutions หรือการออกแบบแพลตฟอร์มเฉพาะ สำหรับลูกค้าระดับองค์กร หน่วยงานภาครัฐ หรือธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งมีมูลค่าโครงการเริ่มต้นที่ 6 ล้านบาท ต่อปี รวมถึง
เตรียมแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ Galaxy Insights ที่เจาะลึกข้อมูลเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มธุรกิจความ งามและเครื่องสำอาง (Beauty and Cosmetics) กลุ่มธุรกิจอาหาร เป็นต้น ในประเทศไทย สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฮ่องกง
บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นในการสร้างสรรค์ระบบและเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าไว้อย่าง ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ Mandala Al ที่มีทั้งระบบ Social Listening & Monitoring, Data Analytics, CRM, CPD Platform และอื่น ๆ ซึ่งเป็น Software as a Services (SaaS) หรือการพัฒนา Paradigm Engine ในฐานะ Platform as a Service (PaaS) ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเทรนโมเดลเอไอได้เอง เป็นต้น
โดยมีแพ็กเกจที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกกลุ่มผู้ใช้งาน อาทิ
• Starter Package ราคา $15 ต่อเดือน
• Individual Package ราคา $39 ต่อเดือน
• Professional Package ราคา $69 ต่อเดือน
• Team Package ราคา $159 ต่อเดือน
• Premium Package ราคา $499 ต่อเดือน
• Business Package ราคา $699 ต่อเดือน
• Enterprise Package ราคา เริ่มต้นที่ $999 ต่อเดือน
“จากผลิตภัณฑ์พื้นฐานทั้งหมดที่มีของเราสามารถให้บริการได้ครอบคลุมทั้งผู้ใช้งานทั่วไปที่สามารถ Subscription เพื่อใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งาน นักสร้างคอนเทนต์ (Content Creators) กลุ่มเอสเอ็มอี (SMEs) ดิจิทัล เอเจนซี่ รวมไปถึงองค์กรภาครัฐ และกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งพร้อมที่จะ ขยายบริการออกไปทำตลาดทั่วโลกได้ด้วย” ดร.เอกลักษณ์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ สามารถทดลองใช้งาน Mandala Cosmos ฟรีได้ที่
www.mandalasystem.com
การเดินทางของ บริษัท