มันคือ Gaming Handheld ที่มาแรงที่สุดในเวลานี้ ต้องเรียกว่ากระแสมาแรงมากๆ แทบทุกสื่อไอทีต่างๆ ทั่วโลก ต่างให้ความสนใจมากๆ กับ เครื่องเล่นเกมส์พกพารุ่นแรกจาก ASUS หลังจากที่เราได้ลองใช้งานแล้วเป็นยังไงบ้าง ขอพูดได้เลยว่ามันแจ่มมากๆ แต่คุณต้องปรับตัวนิดหน่อย แต่มันแรงเหลือจะเชื่อแล้ว
กับ ASUS ROG ALLY รีวิวนี้จะตรงไปตรงมา จุดไหน ดีบอกดี จุดไหนไม่ดีบอกไม่ดี และ จุดไหนที่อยากให้ปรับปรุงใสรุ่นถัดไป มาครับลุย
เห็นครั้งแรก ก็หลงรักเลย รีวิวจะขอข้าม การแกะกล่องไปเลยนะครับ เพราะมันเหมือนกันหมดเลยไม่แตกต่างกัน ตัวนี้มันมาพร้อมกับ หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 7 นิ้ว ซึ่งความรู้สึกตอนที่เห็นครั้งแรก ใหญ่กว่าที่ผมคิดไว้เหมือนกัน แต่พออยู่ด้วยซัก ชั่วโมงนึงเริ่มชิน และ เริ่มรู้สึกว่า มันโอเค มากๆ ในการจับถือ หลายคนบอกว่า 608 กรัม หนักสำหรับผม ผมไม่ค่อยรู้สึกหนักเท่าไหร่ ตอนแรก มันถือแล้วก็หนักนะ แต่พอชิน รู้สึกปกติแล้ว ซึ่งเอาตรงๆ ว่า เวลาแบกไปไหนมาไหน ต้องหากระเป๋าเฉพาะตัว มันหน่อย เพราะถ้าใส่ลงกระเป๋าไปเลย กลัวจอย มันจะมีปัญหาในอนาคต หากระเป๋าเฉพาะเลยเราจะได้มั่นใจ
ถามว่าหน้าจอโอเคมั้ย เล่นข้างนอกเป็นยังไงบ้าง ต้องบอกว่าแจ่ม ผมว่ามันสวยในระดับนึงเลยนะ ชัดเจน เล่นในห้าง เล่นในร้านกาแฟ คือ โอเคมากๆ จอชัด และมันเคลือบสารกันสะท้อนด้วยฉะนั้นแล้ว มันเลยลดแสงสะท้อนจากพวกหลอดไฟได้ดีเลย ก่อนกลางแจ้งร่มๆ หน่อยไม่มีแดดแรงๆ ใต้ต้นไม้ ลมพัดชิวๆ ก็ โอเคเลยครับ
มันมาพร้อมกับ Windows 11 Home เลยฉะนั้นแล้ว ก็คิดไปไกลเลยว่า มันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะเราเล่น วินโดว์อยู่แล้ว และ มันก็ตามที่เราคิดจริงๆ ด้วยความที่มันคือ วินโดว์ มันสามารถลงอะไรก็ได้ ตามใจเราเลย มันสามารถลงได้หมด แต่มันแรกที่ได้มายังไม่มีเน็ต เลยแบบยังไม่ได้ลองอะไรมาก พอกลับมาบ้านมี WIFI แล้วลุยลง เลย จวบจนวันนั้น จนถึงวันนี้ ผมจับคอมน้อยมากๆ เล่นเกมส์ลงสนามบน ALLY หมดเลย
ก่อนจะมาเล่ากันต่อ มาดูสเปกก่อนว่าครับ ตัวที่ขายในเมืองไทยตอนนี้คือ Z1 EXTREME ซึ่งแรงสุดแล้วในเวลานี้ แนะนำซื้อตัวนี้เลย ดีกว่าหากรอดูตัว Z1 ธรรมดาไม่ต้องรอครับ
และมาทำความรู้จักกันอีกเล็กน้อย บน ALLY กันบ้างว่ามีอะไรบ้าง
รองรับ Aura Sync หนึ่งในของเด็ดบน ROG ที่จะทำให้คุณสามารถ ซิ้งค์ไฟ ได้ใครที่ใช้สินค้าของ ASUS ROG ที่รองรับ Aura Sync น่าจะรู้ดี ว่ามันทำอะไรได้
ตัวเครื่องจะมีระบบระบายความร้อน โดยดูดอากาศจากด้านหลังเครื่องและ เป่าออกทางด้านบน มีแผ่นกรองฝุ่นเพื่อไม่ให้ฝุ่นมันเข้าไปอุดตันแน่นอนครับ เล่นได้ทุกที่ทุกเวลา ส่วนปุ่มด้านหลังเครื่อง เผื่อจะงง ว่ามันคืออะไร มันคือปุ่ม มาโคร M1 และ M2 สามารถควบคุมได้ และ ปรับแต่งได้เพิ่มเติมครับ
การออกแบบ จะว่าไปคล้ายกับ จอยของทาง Xbox เหมือนกันนะ ฟิลมันใช่เลย ทั้งตำแหน่งที่ใกล้เคียงมากสัมผัสปุ่มต่างๆ โอเคมาก ไม่นิ่มและ ไม่แข็งเกินไปคุณภาพโอเคอยู่ครับ ตรงตำแหน่ง D-Pad และ อนาล็อก ก็เหมือนกันใช้งานได้ดีเลย ตำแหน่งจัดว่าถนัดในการใช้งานครับ ถ้าคนที่จับจอย Xbox มาก่อนมันแทบจะเหมือนกันเลย
ด้านบนเครื่อง ช่องใหญ่ๆ มันคือ ช่องระบายอากาศ ซึ่งมันมีความร้อนพอสมควรเวลา เล่นเกมส์ไม่ต้องตกใจนะครับ มันร้อนเอาเรื่องเลยแหละ แต่บริเวณที่จับ จะไม่รู้สึกนะครับ แต่ถ้าเอามามา อังๆ ตรงช่องนี้ คือ ร้อนเลย ส่วน ด้านซ้าย มันเป็นช่อง USB Type C 3.2 Gen 2 รองรับการต่อออกจอนอกได้ ส่วนตรงแถบดำๆ มันคือ ช่องที่เอาไว้เสียบ e-GPU ROG XG Mobile ซึ่งมันสามารถ เอาไว้ต่อการ์ดจอแยก ได้ซึ่งทาง ASUS มีวางจำหน่ายแยก ใคร เงินเหลือก็จัดไปได้ ไว้สรุปตอนท้ายบทความครับ ว่าราคาเท่าไหร่
อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นปุ่ม Home รวมถึงสามารถปิดเครื่อง
พักเครื่องได้ และ รองรับการสแกนลายนิ้วมือได้ด้วย
โอเคเนอะ ซึ่งมันก็ตามนั้นเลย ด้วยความที่มันเป็น Windows 11 Home ฉะนั้นแล้วอะไรที่เรา เล่นบน PC / Notebook ได้ตัวนี้มันก็สามารถทำได้ไม่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะ Mircrosoft Word / PowerPoint / Excel มันทำได้หมดเลย เผื่อใครต้องการ แบกไปทำงานด้วย มันทำได้จริงๆ นะ ฮ่ะฮ่า หรือ จะ Google One อะไรก็ทำได้หมด เชื่อมต่อกับ เม้าส์ คีย์บอร์ด ก็สามารถทำได้เลย หา Hub แจ่มๆ สักตัวนะ เดี้ยวมันก็คงมีออกมาขาย แหละครับ ผมลองมาแล้ว ต่อสาย เข้าจอมอนิเตอร์ เอาคีย์บอร์ดทำงานมาแล้ว ซึ่งมันก็ทำได้แทบไม่ต่างจาก PC เลย ในกล่องมีแถมที่ตั้งไห้ด้วยครับ
บน Ally คุณสามารถควบคุม สั่งการได้ผ่าน โปรแกรมที่ชื่อว่า Armoury Crate SE ถามว่ามันทำอะไรได้บ้าง ต้องบอกว่ามันคือ หัวใจหลักสำคัญของ Ally เลยคุณสามารถสั่งการ สิ่งต่างๆ ได้อย่างมากมาย เช่น Command Center โหมดนี้ คือ คุณจะสามารถควบคุมสั่งการได้ สามารถ ปรับ เพิ่ม-ลดได้ หรือ บางทีคุณอยากจะปรับภาพ เป็น 1080p ก็ทำได้ ปรับโหมดการทำงานได้ มี 3 โหมดให้เลือก แต่ละโหมด ก็จะมีการใช้งานที่แตกต่างกัน ใช้ไฟ 10W อาจจะดูหนังฟังเพลง เล่นเกมส์เบาๆ เพลินๆ สมอง 15W อันนี้ตรึงขึ้นมาหน่อยกราฟฟิกสวยๆ หน่อย เฟรมเรตเฉยๆ 30W จัดไปเลยเต็มระบบ บางเกมส์ที่ปรับมาที่ 30W เรารับรู้ได้เลยว่า ภาพสวย ลื่นขึ้น เฟรมนิ่งขึ้น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการกินแบตเยอะมากเช่นกัน
คุณสามารถลงอะไรก็ได้ บนนี้ เกมส์ที่ดองๆ ไว้ ไม่ว่าจะ Steam หรือ เกมส์ที่ชอบแจกฟรีบ่อยๆ บน EPIC Store หรือ จะสมัคร Xbox Game Pass ก็ได้ แต่ถ้าซื้อ ALLY แจกฟรี 3 เดือน ซึ่งคุณก็จะสามารถเข้าถึงเกมส์ระดับเทพๆ ได้แล้วเช่น Forza Horizon 4 / 5 หรือ เกมส์อย่าง FIFA คุณก็ได้เพราะ ถ้ามี Xbox Game Pass แล้วคุณสามารถ ได้สิทธิ์เล่นเกมส์จะ เครือ EA ได้ด้วยผ่าน EA Play เกมส์ตึงๆ ก็มีมากมายเช่น Need for Speed Unbound ก็ สามารถนำมาเล่นบน ALLY ได้ ซึ่งสเปกตัวนี้ มันก็โหดอยู่นะ ก็เล่นได้ ผมเล่นอยู่ เครื่องคอมแก่ๆ ของผม ยังกระตุก แต่อันนี้สบายมากๆ เล่นเพลินเลย
การเล่นเกมส์เป็นยังไงบ้าง ต้องบอกว่าผมได้ลองหลายเกมส์ระดับแนวหน้าเป็นจำนวนมาก แต่บางเกมส์ ผมเล่นได้แปปนึง ก็ต้องลบแล้วตามด้วยเกมส์ใหม่ ซึ่งเหตุผลคงจะเป็นที่ หน่วยความจำ 512GB ส่วนตัวคิดว่ามันน้อยไปนิดครับ มันเลยต้องลบและ ลง ลบและลงใหม่ เอาจริงๆ มันก็แล้วแต่คน แล้วแต่เกมส์ที่เล่น บางเกมส์กินทรัพยากรสูงมากครับ บางเกมส์เกินกว่า 100GB ไปแล้ว
ถ้าเล่นหนักจริงๆ ไม่อยากลบลงใหม่บ่อยๆ หนทางที่ดีที่สุดคือ เปลี่ยน SSD เพิ่มไปเลย 1-2 TB เจ็บแต่เราก็จบ แต่ก็ต้องมานั่งลงวินโดว์ใหม่นะครับ แต่สมัยนี้ มันมีเครื่องมือ สำหรับโคลนจาก SSD เดิมไปยัง SSD อันใหม่ได้แล้ว ลองหาดู มันจะทำให้คุณใช้ชีวิตง่ายอีกขั้น เหมือนกัน ไม่ต้องมานั่งลงใหม่
ผมได้ลองเกมส์ในหลายๆ แนวเช่น Need for Speed Unbound , JR EAST Train Simulator , Monster Hunter World , Devil May Cry ก็สามารถเล่นได้เช่นกัน แบบไม่มีปัญหา เกมส์ไหนที่รองรับการใช้งานจอย ก็สามารถดูก่อนดาวน์โหลดได้ แต่ส่วนมากจะรองรับนะครับ มันเล่นได้ครับ แต่ก็ต้องมีการปรับบ้าง คือ มันต้องปรับจริงๆ
สิ่งสำคัญคือ อย่ามองว่ามันคือ คอนโซล อย่าไปมองว่ามันคือ เครื่องเล่นเกมส์ เช่นพวก Xbox / Playstation / Nintendo ไม่อยากให้มองตรงนั้น แต่อยากให้มองว่ามันคือ PC หรือ Notebook Gaming ซักตัวนึงมากกว่า ครับ เพราะ แพลตฟอร์มเหล่านั้น เกมส์แต่ละเกมส์ มันทำออกมาให้เล่นได้ แน่ๆ อยู่แล้วแทบไม่ต้องปรับแต่งอะไร มันก็ ปรับให้เอาเท่าที่กำลังมันจะไหว ซึ่งต่างจาก Ally ที่คุณจะต้องมานั่งปรับตัวนิดหน่อย เช่น ค่ากราฟฟิก ที่บางเกมส์ อาจจะกลาง โหดมาก อาจจะ Low หรือ บางเกมส์ ก็สามารถปรับสุดได้หมด ฉะนั้นแล้ว มันต้องมาปรับในตั้งค่าเกมส์ด้วย รวมถึง ปรับแต่งบน Armoury Crate SE ไปด้วย เช่น บางเกมส์ อาจจะปรับให้ภาพเหลือประมาณ 720p แทนที่จะเป็น 1080p เพื่อแลกกับความที่ลื่นมากยิ่งขึ้น ซึ่ง บนหน้าจอ 7 นิ้วกับความละเอียด 720p ผมก็ไม่ค่อยรู้สึกว่าภาพมันจะแตก ภาพมันจะหยาบขึ้นแต่อย่างใดเลย
คลิปทดสอบเกมส์บน ROG Ally / อัดหน้าจอ
VIDEO
VIDEO
VIDEO
VIDEO
เพิ่มเติมอีกนิด สายชาร์จที่แถมมาให้ครับ
สรุปแล้ว ROG ALLY มันคือ Gaming Handheld ที่น่าสนใจมากๆ ตัวนึงในตลาดในเวลานี้เลยครับ กล้าพูดได้แบบเต็มปาก เพราะ คุณได้การรับประกัน โดยตรงจากทาง ASUS เป็นระยะเวลา 2 ปีเต็มๆ แล้วประกันมันเป็นแบบ Global ฉะนั้นแล้ว คุณสามารถนำเข้าไปใช้บริการได้ ทั่วโลก ที่ทาง ASUS มีวางจำหน่าย Ally ครับ รับประกันกันไปแบบ 2 ปีเต็ม อย่างน้อยๆ เราอุ่นใจ และ ราคา 24,990 บาท ผมว่าราคามันดีมากๆ เทียบกับหลายๆ อย่างที่มันใส่มาให้ แต่ยอมรับเลยว่า หน่วยความจำ ที่ให้มา 512GB มันน้อยมากจริงๆ คอเกมจัดๆ อาจจะต้องเพิ่ม SSD หรือ ไม่ก็ต้อง
ลบลงใหม่ ไปเรื่อยๆ ซึ่งมันอาจจะทำให้คุณหัวเสีย มันรองรับการยัด SD CARD ก็จริง แต่มันไม่เร็วเท่ากับ SSD แน่นอนการอ่านเขียนข้อมูลผมว่า มันช้าแน่ๆ แล้วตรงนั้น มันเป็นจุดที่ มีการระบายความร้อน ผมก็กลัวว่า มันอาจจะมีปัญหาตามมาในอนาคต เพราะตรงบริเวณนั้นความร้อนค่อนข้างสูงมาก เวลาจัดเกมส์เต็มกราฟฟิก เปิดโหมด Turbo 30W ส่วนของไมค์ตัดเสียงรบกวน ทำได้ดี ลำโพงดีมากๆ ผมใช้แทนมือถือไปแล้ว ฟังเพลง คือ โคตรดี ดูหนังมันได้เต็มฟิลดีมาก
แล้วแบตเตอรี่หละ เป็นคำถามที่ถามกันมาเยอะมากๆ หลายคนถามเลยว่าแบตเตอรี่เป็นอย่างไร เอาตรงๆ นะครับมันไม่ได้อึด ใช้งานแบบเล่นเกมส์เต็มระบบ คือ ผมลองมันเล่นได้แบบ ไม่เกิน 2.30 ชั่วโมงก็หมดแล้ว บางเกมส์กินโหดๆ มันไม่เกิน 2 ชั่วโมง ก็หมดแล้ว มันเลยอาจจะไม่เหมาะสำหรับการแบก ออกไปข้างนอกโดยที่คุณไม่ต้องพกสายชาร์จออกไป พอเข้าใจมะครับ มันน่าจะเหมาะสำหรับ อ่า ปีใหม่ ไปบ้านญาติ ขี้เกลียจแบก Notebook ไป คุณแบกตัวนี้ไปคือ จบ หรือ ไปเที่ยวโรงแรม พักผ่อน สายเกมส์มันอยู่ในใจ ก็พกไปใช้งานได้
แต่ถ้าแบบ จะให้มันอึดแบบ สมาร์ทโฟน ทนทานตลอดทั้งวัน มันไม่ใช่แน่นอนครับ ผมกล้ารับประกัน หรือ อาจจะ มีคอมพิวเตอร์ อยู่ชั้น 1 แล้วชั้น 2 ห้องนอน ไม่มีคอนโซล คอมเราเล่น นั้นแหละ ซื้อได้เลย ยังไง ที่ชาร์จ ก็ต้องแบกไป ไม่พอ แอบเสียดายที่ของไทย ได้เป็น แบบในภาพด้านบนมา เหมือนประหนึ่งของโน๊ตบุ๊คเลย แต่ถ้าใครมีพวกหัวชาร์จแบบ PD 65W ขึ้นไป ก็ ใช้งานแทนกันได้เหมือนกันนะครับ
คุ้มมั้ยที่จะซื้อ คำตอบคือ ถ้าคุณอยากเล่นเกมส์ ซื้อได้ ไม่มีปัญหา ถามว่ามันจะมาแทนพวก Notebook Gaming / PC Gaming ได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ได้ อย่างที่บอกไปว่ามัน ขึ้นอยู่กับความชอบของเรา มากกว่า ในราคา 24,990 บาท บน PC อาจจะได้สเปกที่สูงกว่า นี้ ก็ได้ แต่มันก็ยังไม่รวมจอและ อุปกรณ์อื่นๆ ก็ได้ หรือ ยกในเคสของ โน๊ตบุ๊คเหมือนกัน มันเหมือนกับการเน้นพกคล่องตัว สบายๆ ยก ใส่ แล้วไปได้เลย ไม่ต้องมานั่ง แบกโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง 2 โล 3 โล ยังไม่รวมที่ชาร์จ ยังไม่รวม เม้าส์แยก คีย์บอร์ดแยกอีก จอยแยกไปอีก
สิ่งที่อยากให้แก้ไข หรือ มีในรุ่นถัดไป ใจลึกๆ ผมอยากเสนอให้ ROG Ally 2 ที่ไม่รู้จะออกมาปีไหน มี ช่องเสียบ USB Type C เพิ่มมาอีกช่องคล้ายกับบน ROG Phone ซึ่งเหตุผล มันคงอยู่ในตัวมันอยู่แล้ว บางทีเราไม่สะดวกสำหรับการต่อ XG Mobile หรือ Hub ต่างๆ อยากต่อแค่ Display Port ไปที่จอ แล้วอีกหัว ก็เอาไว้ชาร์จมันจะได้เล่นได้แบบสบายๆ ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าแบตเตอรีจะหมดไว
ใครอยากได้ ลองดูได้ครับ
รับประกัน 2 ปี Warranty2 Years global warranty
สินค้ารับประกัน 2 ปี *ภายใต้เงื่อนไขการรับประกัน ASUS
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://th.rog.gg/M5bNJQ
_______________________________
ช่องทางออนไลน์ลุยเลยได้ที่
_______________________________
#BITTALKER
#ASUS
#ROGTH
#ROGALLY
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น