ของดีที่ต้องแนะนำเลย ใครเลิฟด้านการเล่นเกมส์ผมว่าตัวนี้ไม่พลาดแน่นอน รับประกัน ผมว่ามันคือ การอัพเกรดที่กลมกล่อม หลายคนอาจจะบอกว่า เอ๋มันอัพเกรดในด้านไหนบ้างสำหรับ Asus ROG Ally X 2024 เรามาลองดูกัน รอบนี้บอกได้เลยว่า ดีทุกด้าน แม้ดีไซน์จะเหมือนเดิม แต่ภายในปรับปรุง น่าใช้มากยิ่งขึ้น เรามาดูภายในกล่องกัน ว่ามีอะไรบ้าง
• ตัวเครื่อง ROG Ally X
• อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 65W AC Adapter, Output: 20V DC, 3.25A สาย ชาร์จ Type C
• คู่มือการใช้งานเบื้องต้น: วิธีการใช้งานพื้นฐาน
• แท่นตั้ง 2 อัน
ในส่วนของประสิทธิภาพ เบื้องต้นของ ROG Ally X 2024 ต้องบอกว่ารอบนี้ มีการอัพเกรด ในหลายๆ ส่วน ประสิทธิภาพ
- CPU: AMD Ryzen Z1 Extreme ประมวลผลแรงขึ้น
- GPU: AMD Radeon™ Graphics RDNA 3
- RAM: 24GB LPDDR5X ความเร็วสูง 7500 MHz
- Storage: SSD NVMe PCIe 4.0 ความจุ 1TB M.2 SSD (2280)
- แบตเตอรี่ 80WHrs, 4S1P, 4-cell Li-ion
- มาพร้อม 3.5mm Audio Jack
- มี USB 3.2 Gen 2 Type-C support DisplayPort™ / power delivery มาให้ 1 ช่อง
- มี USB Type C support USB 4 (Thunderbolt™ 4 )
- มาพร้อม ช่องเสียบ microSD card
ระบบระบายความร้อน Zero Gravity ของ ROG และการออกแบบพัดลมคู่ช่วยให้ Ally X มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนได้มากยิ่งขึ้น มาพร้อม หน้าจอขนาด 7 นิ้ว ไม่ต่างจากรุ่นที่แล้ว รองรับ Refresh Rate 120 Hz หน้าจอแบบ IPS เหมือนรุ่นก่อนเป๊ะๆ
เรารู้กันอยู่แลัวหละครับ ว่ามันคือ Gaming Handheld ระบบ Windows 11 ฉะนั้นแล้วมันมันก็สามารถที่จะทำอะไรได้มากกว่า เอามาเล่นเกมส์ เห็นครั้งแรก ก็หลงรักเลยสีดำเอาใจสายผู้ชายแมนๆ แน่นอนฮ่ะฮ่า บางคนไม่ชอบสีขาวเพราะกลัวเปื้อนนี่ไง มาเลยสีดำ น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นมาจากรุ่นก่อนประมาณ 70 กรัม ตัวก่อนจะอยู่ที่ 608 กรัม ตัวนี้จะอยู่ที่ 678 กรัม แต่หนักขึ้นไม่ใช่ว่ามันหนักมากเลย ผมว่าใช้ไปใช้มาแทบไม่ต่าง แล้วทำไมมันต้องหนักขึ้น เพราะแบตเตอรี่มันเพิ่มขึ้นมา 1 เท่าเลยครับ จากเดิม 40WHrs กลายมาเป็น 80WHrs ซึ่งหมายความว่า คุณสามารถเล่นเกมส์ ได้ยาวนานขึ้น แน่นอน ซึ่งมันก็จริง มันดีขึ้นทุกอย่าง
อีกการเปลี่ยนแปลงในรอบนี้ คือ ช่อง Type C ที่รองรับมาพร้อมกับการรองรับ Thunderbolt™ 4 เรียบร้อยแล้ว จากเดิมรุ่นที่แล้ว จะมีช่องที่รองรับ ROG XG Mobile เท่านั้นแต่รอบนี้จะสามารถรองรับ eGPU ได้เรียบร้อยแล้ว ตัวอย่างเช่น ขอบคุณคลิปจาก ETA PRIME
VIDEO
ซึ่งถ้าหากคุณมี eGPU อยู่แล้วก็สามารถใช้งานได้ทันที แต่ถ้าไม่มี มันก็โคตรแรงอยู่แลัวหละ แต่ถ้าในด้านของงบประมาณ ของคุณไม่ใช่ปัญหา ก็ลองค้นหาข้อมูลดูเพิ่มเติมได้
บอกเลยว่ารอบนี้มันมีการปรับปรุง และน่าใช้มากยิ่ง อีกหนึ่งสิ่งที่ผมประทับใจ คือ ระบบระบายความร้อนในรอบนี้ มีการอัพเกรดจากเดิม พอสมควร ความรู้สึกที่แตกต่าง แตกต่างจริงๆ รู้สึกร้อนน้อยลงกว่าเดิม เสียงค่อนข้างเงียบ แต่ถ้าเปิดโหมด Turbo ก็อาจจะมีเสียงบ้าง เพราะมันต้องเร่งการทำงานของ ซีพียู กราฟิกการ์ด ซึ่งมันก็เป็นปกติของพัดลมเพื่อระบายความร้อน ที่อาจจะมีเสียงดังบ้าง
ในด้านของความปลอดภัย ทั้งรุ่น Ally X และ Ally X 2024 ยังมาพร้อมกับปุ่มสแกนลายนิ้วมือได้ ซึ่งหลายๆ ท่านไม่ทราบว่ามีด้วย ใช่แล้วมันมีครับ สามารถใช้งานได้ เวลาตั้งโหมด สลีป หรือ เวลาเปิดใช้งาน
ในด้านของซอฟต์แวร์ พื้นฐานตัว Ally X 2024 ก็จะเหมือนรุ่นก่อน คือ มาพร้อมกับ Windows 11 Home และ อีกโปรแกรมที่ขาดไม่ได้ คือตัว ROG Ally X มาพร้อมกับ โปรแกรม Armoury Crate SE: ซึ่งถือว่ามันคือ หัวใจหลักสำคัญของการปรับแต่งประสิทธิภาพให้กับ ROG Ally X เลยก็ว่าได้
เพราะค่าต่างๆ คุณสามารถปรับแต่งได้จากตรงนี้ เรียกได้ว่า มันคือ สมองสั่งการเลยก็ได้ว่าได้ เพราะมันสามารถปรับแต่งในส่วนของ CPU : GPU ได้ ควบคุมความเร็วของพัดลม ปรับแต่งปุ่มควบคุมต่างๆ ปรับโหมดการทำงานของเครื่องได้หลากหลายรูปแบบ เลือกโหมดการทำงาน (Performance, Turbo, Silent) รวมถึงสามารถ ปรับแต่ง TDP ได้เอง สามารถปรับกำลังไฟที่ส่งให้ CPU ได้ตั้งแต่ 10W ถึง 30W ปรับแต่งการควบคุมปุ่มต่างๆ ได้เช่น ปุ่ม Macro ด้านหลังเครื่อง ปรับความไวของ analog sticks และ triggers ได้
รวมถึงการจัดการเกมต่างๆ Game Library: รวมเกมจากแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Steam, Epic Games, GOG ไว้ในที่เดียว ปรับแต่งต่อเกม: บันทึกการตั้งค่าประสิทธิภาพและการควบคุมแยกตามเกม หรือ สามารถ แสดงข้อมูลฮาร์ดแวร์ได้หลากหลาย ดูอุณหภูมิ ดูการทำงานของ ซีพียู
จีพียู แสดงค่า FPS ได้ขณะเล่นเกมส์
ROG Ally X มันเป็นมากกว่าคำว่า สำหรับการเล่นเกมส์ คุณสามารถนำ ไปใช้ในงานต่างๆ ได้ ต่อขึ้นจอมอนิเตอร์ มันก็ทำหน้าที่เหมือนคอมพิวเตอร์ เครื่องนึงได้เลย จะต่อเมาส์ คีย์บอร์ด เล่นเกมส์ ก็สามารถทำได้ทั้งหมด หรือ นำมาตัดต่องาน ลงโปรแกรมตัดต่อต่างๆ ก็สามารถทำได้ ตัดคลิปวีดีโอ ตัดต่อภาพต่างๆ ก็สามารถทำได้เลย ทันที หรือ คุณจะเอามาดูหนัง ฟังเพลง ก็ไม่มีปัญหา ลำโพง ดีมากๆ ด้วย ผมชอบตั้งแต่ รุ่นที่แล้วเลย
ละแบตเตอรี่คือ อึดกว่ารุ่นที่แล้วชัดเจนมากๆ ถึงมากที่สุด เหมือนเอาคำบ่นๆ มาแก้ในรุ่นนี้แหละ จากเดิมรุ่นที่แล้ว เล่นไปไม่ทันไร ขึ้นให้ชาร์จอีกละ รุ่นนี้แก้ไขได้แบบเยี่ยมเลย จากเดิมที่บางเกมส์ ปรับค่าต่างๆ เหมือนรุ่นที่แล้วเป๊ะๆ เกมส์เดิมแบบเป๊ะๆ เล่นไปไม่ไม่ถึง 1 ชั่วโมงเลย แจ้งเตือนให้เสียบชาร์จแล้วจ้า แต่รุ่นนี้ เล่นได้แตะ 2 ชั่วโมงเลยที พูดจริงนะ ตั้งแต่ เรื่อง SSD M.2 แบบ 2230 แล้วที่หลายๆ คนบอก โอ้ยหาซื้อยาก ใส่มา 512GB ไม่พอ แพงอีก แน่นอนว่า เขาแก้มาให้เป็นแบบ 2280 แล้ว ซึ่งหาซื้อได้แบบทั่วไป เดิมๆ ก็ความจุเพิ่มขึ้น เป็น 1TB จากเดิมที่ 512GB ถือว่า แก้จุดนี้ได้แบบยอดเยี่ยม ไหนจะเรื่องความร้อนอีก ที่นำมาแก้ไข และ ถือว่าสมบูรณแล้วหละ
เรื่องความบันเทิง การเล่นเกมส์ถือว่า รุ่นนี้ปรับปรุงมาอย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในด้านของการเล่นเกมส์ ผมแทบจะเล่นได้ทุกเกมส์ ที่ผมมีอยู่ตอนนี้ เลย ไม่ว่าจะเป็นเกมส์ ฟุตบอลอย่าง FC 25 ก็สามารถเล่นแบบลื่นไหลได้ หรือ Black Myth: Wukong เกมส์นี้ผมยืมไอดีเพื่อนมาโหลดเล่น ก็สามารถเล่นได้ ในการตั้งค่าแบบกลางๆ ลื่นมาก หรือจะเป็นเกมส์ Forza 4 ซึ่งเล่นได้แบบลื่นๆ สบายๆ รวมถึง Call of Duty และ เกมส์ระดับ AAA ต่างๆ จนถึงยุคปัจจุบัน ก็ขับได้เกือบทุกเกมส์ ในเวลานี้ ซึ่งผมมีแนวทางนะ
คุณสามารถลงอะไรก็ได้ บนนี้ เกมส์ที่ดองๆ ไว้ ไม่ว่าจะ Steam หรือ เกมส์ที่ชอบแจกฟรีบ่อยๆ บน EPIC Store หรือ จะสมัคร Xbox Game Pass ก็ได้ แต่ถ้าซื้อ ALLY X จะแจก Xbox Game Pass ฟรี 3 เดือน ซึ่งคุณก็จะสามารถเข้าถึงเกมส์ระดับเทพๆ ได้แล้วเช่น Forza Horizon 4 / 5 หรือ Palworld / Call of Duty และเกมส์อื่นๆ ได้
เรียกได้ว่าสบายๆ ใช้งานได้แบบชิวๆ ไม่ต้องกังวล ในเรื่องของการเล่นเกมส์เลย ผมมีทริคมาบอกด้วยนะครับ หาก คุณต้องการปรับค่าเกมส์ต่างๆ ให้ลื่นไหล แนะนำให้ไปที่
มันเป็นภาษาอังกฤษนะครับ แต่ทำความเข้าใจไม่ยากอะไร ผมว่า สามารถนำมาปรับแต่งเกมส์ต่างๆ ได้ยอดเยี่ยมเลย บอกเลยว่ามันจะเป็นการรีด ประสิทธิภาพให้ยอดเยี่ยมขึ้น มากๆ เลยหละและ ไม่ได้ลงโปรแกรมนอกเหนือจากเดิมนะครับ แต่เป็นการปรับการตั้งค่า ในโปรแกรมที่มีอยู่นั่นแหละครับ
สรุปแล้ว ROG Ally X นับเป็นอุปกรณ์ที่ให้ความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้เป็นทั้งเครื่องเล่นเกมพกพาและคอมพิวเตอร์ Windows ขนาดพกพาได้ในเครื่องเดียว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์เล่นเกมที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถใช้งานได้หลากหลาย ให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ใกล้เคียงกับ PC gaming ในรูปแบบพกพา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเล่นเกมทั้งที่บ้านและนอกสถานที่ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรคำนึงถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่อาจจำกัดเมื่อเล่นเกมที่ใช้ทรัพยากรสูง แต่รวมๆ แล้ว ถือว่าสอบผ่านในรอบนี้ครับ
จุดเด่น:
- ประสิทธิภาพสูงสามารถเล่นเกม AAA ได้อย่างลื่นไหล
- หน้าจอคมชัด อัตรารีเฟรชสูง
- ระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ
- ความสามารถในการปรับแต่งสูง ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
- รองรับการเชื่อมต่อกับจอภายนอกเพื่อเล่นบนหน้าจอขนาดใหญ่
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคอนโซลทั่วไป
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่อาจไม่ยาวนานนักเมื่อเล่นเกมที่ใช้ทรัพยากรสูง
- ขนาดและน้ำหนักอาจทำให้ถือเล่นนานๆ ไม่สะดวกสำหรับบางคน
ค่าตัว 29,990 บาท สามารถหาซื้อได้ ทุกช่องทางตัวแทนจำหน่ายของ ASUS ประเทศไทยได้เลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น